การพ่วงเครื่องปั้มน้ำอัตโนมัติกับปลั๊กไฟในบ้าน มีอันตรายอย่างไร

Options

ปัญหานี้ มันเริ่มมากจากการต่อเติมค่ะ เราได้ทำการต่อเติมครัวหลังบ้าน
ก่อนต่อเติมด้านหลังบ้าน บริเวณหลังบ้านนั้นมีปลั๊กอยู่แค่ตัวเดียวคือสำหรับเครื่องปั้มน้ำ ซึ่งโครงการเค้าก็แยกสวิตซ์ให้ตรงตู้ไฟที่ไว้ใช้สำหรับเครื่องปั้มน้ำอย่างเดียว

เมื่อผู้รับเหมาเข้ามาต่อเติมครัว ตอนที่เค้าวางท่อเดินไฟภายในห้องครัว เค้าได้พ่วงสายไฟจากเต้ารับ(เครื่องปัึ้มน้ำตัวนั้น)แล้วก็เดินเต้ารับภายในห้องครัวเป็นจุดๆ (ซึ่งเรามารู้ทีหลังตอนเค้าทำเสร็จแล้วว่าเค้าจั้มสวิตซ์ไฟกัน เค้าไม่ได้บอกเราเลยว่าเค้าทำแบบนี้) แล้วเครื่องปั้มน้ำตัวนั้นก็ถูกย้ายจากตำแหน่งเดิมไปอยู่นอกห้องครัวและทำเต้ารับใหม่ขึ้นมานอกผนังห้องครัว เป็นเต้ารับแบบใส่หน้ากากกันน้ำ (แต่หน้ากากก็ปิดได้ไม่สนิท)

ปัญหาคือ.. เครื่องปั้มน้ำอยู่นอกบ้าน.. มีเต้ารับอยู่นอกบ้าน(เต้ารับที่ใส่หน้ากากกันน้ำแต่ปิดไม่สนิท ฝนตกน้ำก็ขังทำให้เกิดไฟช็อต) และเต้ารับตัวนั้นก็พ่วงกับเต้ารับตัวอื่นๆ ในห้องครัว ซึ่งใช้สวิตซ์ cut out ตัวเดียวกัน (สวิตซ์ cut out ย่อยสำหรับเครื่องปั้มที่ตู้ไฟน่ะ) ทีนี้.. เมื่อมันช็อตก็ทำให้คัตเอ้าท์ตัดไฟอัตโนมัติ ภายในห้องครัว อุปกรณ์อื่นๆ ก็ใช้งานไม่ได้ เพราะเต้ารับไม่มีไฟ..

ในห้องครัวมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่าง เช่น เครื่องดูดควัน ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เตาอบ กระติกน้ำร้อน.. เครื่องปั้มน้ำ(อยู่ด้านนอก) .. อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟเยอะทั้งนั้น.. แล้วใช้สวิตซ์ cut out ตัวเดียวกันด้วยอ่ะ แบบนี้.. มันจะทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้างคะ (มันต้องมีอยู่แล้ว แต่อยากทราบความเห็น)
1. เมื่อเครื่องปั้มช็อต อย่างอื่นก็ใช้งานไม่ได้หมดภายในห้องครัว
2. ปัญหาไฟเกินมีมั้ย???
3. มีปัญหาอะไรอีกบ้าง และมีวิธีแก้อย่างไร (เคยเสนอให้ผู้รับเหมาแก้งานแล้ว คือ ให้แยกสวิตซ์ต่างหากสำหรับเครื่องปั้มไปเลย แต่เค้าตั้งรื้อท่อไฟทั้งหมดหใหม่ ซึ่งเค้าก็ไม่อยากทำ)
เค้าแก้ปัญหาวิธีแรกโดยการเอาเครื่องเป่าลมมาเป่าที่เต้ารับเครื่องปั้มน้ำเพื่อไล่น้ำออกให้หมด แล้วอุดซิลิโคนหน้ากากเต้ารับเครื่องปั้มน้ำ (ติ๊งต๊องสิ้นดี) นั่นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุใช่ไม๊คะ..

คือ เราก็บอกผู้รับเหมาแล้วว่านั่นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เค้าก็บอกว่าเค้าจะบอกช่างไฟให้มาแก้ เค้ามีวิธีของเค้าที่ทำไม่ให้ช็อต แต่เราอยากให้เค้าเดินระบบไฟใหม่.. แต่เราก็มีความรู้ไม่มากเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย.. อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยว่าเราจะบอกเค้ายังไงได้บ้าง เอาเหตุผลอะไรมาพูดเพื่อให้เค้ายอมเดินระบบไฟใหม่ เราแย้งเค้าเรื่องเดินระบบไฟนี้ตั้งหลายครั้งแต่เค้าก็ไม่แก้ให้เราอ่ะ.. ช่วยแนะนำเราหน่อยว่าต้องพูดยังไง เอาเหตุผลอะไรมาโต้แย้ง นี่บ้านเรา.. เราไม่อยากให้เค้าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแบบนี้เลย.. ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

1. แน่นอนว่า ถ้าจุดต่อปั๊ม หรือตัวปั๊มช็อต เบรกเกอร์ก็ทริป ปลั๊กอื่นก็ใช้งานไม่ได้

2. ไฟเกินหรือเปล่า ต้องดูขนาดสายไฟ ขนาดเบรกเกอร์ และกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผ่านวงจรนี้ทั้งหมด

3. คุณเข้าใจถูกแล้ว วิธีแก้ที่ต้นเหตุคือเดินวงจรแยก และใช้กล่องกันน้ำช่วยอีกก็ยิ่งดี คุณก็ใช้เหตุผลที่คุณเข้าใจ และเรื่องการจ่ายค่าจ้าง นี้แหละไปแย้ง

เสริมด้านบนๆ

ถ้าสายไฟที่เดินมาที่ปั้มน้ำเดิม มีขนาดใหญ่เพียงพออยู่แล้ว และขนาดของเบรคเกอร์ในวงจรนี้มีขนาดใหญ่เพียงพอ ก็สามารถเดินระบบแบบที่ช่างทำไว้ได้
เพียงแต่อาจจะต้องติดตั้งเบรคเกอร์เพิ่มเติมในส่วนของปั้มน้ำที่อยู่นอกบ้านเพิ่มเติม เพื่อที่หากมีการลัดวงจร ส่วนที่เหลือในครัวจะยังสามารถใช้งานได้อยู่

การเพิ่มเติมหรือย้ายอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว จะต้องเดินสายใหม่มายังตู้นั้น

ไม่ใช้คำตอบที่ดีเสมอไปครับ

ต้องดูเป็นกรณี ๆ ไป ... กรณีของท่านเจ้าของกระทู้แค่ปั๊มน้ำตัวเดียว ผมก็มีความเห็นว่า

ไมต้องเดินสายใหม่ก็ได้ครับ ... การเดินสายใหม่ต้องคำนึงถึงงานด้านสถาปัตยกรรม

ของเดิมด้วย ..

สรุปว่า

1. ไม่ต้องเดินสายใหม่มายังตู้ไฟก็ได้ครับ

2. จุดเชื่อมต่อถ้าช่างทำได้ไม่ดี ... ถ้าสะดวกถ่ายรูปมาให้ดูได้ .. ผมก็พอที่จะหาทาง

ช่วยหรือให้คำแนะนำได้ครับ ..

เอาปลั๊กเจ้าปัญหาออกไป เอา Circuit Breaker ใส่เข้าไปแทน โดยให้ CB อยู่ในกล่องกันน้ำที่มีฝาปิด ปลั๊กไม่ต้องใช้ โยก CB เปิดปิดแทน

ขนาดสะพานไฟที่ใช้ฟิวส์เส้นของบ้านเช่า ผมยังเปลี่ยนเป็น CB เลย ติดเสร็จ ก็บอกคนเช่า ว่า ไฟดับมาโยกตัวนี้ก่อน ค่อยไปบอกแม่ผม ม่ายงั้นฟิวส์ขาดที แม่ก็ต้องไปตามคนรู้จักให้มาเปลี่ยนหากผมไม่อยู่บ้าน

ภาพประกอบค่ะ

ขอขอบคณทุกๆ ความคิดเห็นมากค่ะ
เมื่อเช้าเค้ามาเปลี่ยนสายไฟในท่อ PVC สีเหลืองแล้วค่ะ มาถึงก็ทำๆ ไม่พูดอะไรเลยซักคำ เราก็บอกอาการเค้าไปว่ามีมันไม่ตัด เลยปิดสวิตซ์เอง แต่คัตเอาท์มันก็ตัดอยู่ดี แล้วก็มีกลิ่นไหม้ด้วย เค้าก็แค่พยักหน้า เราก็ขี้เกียจจะพูดหรือถามอะไรมาก ก็ปล่อยให้เค้าทำงานไป ไม่ได้ไปดูอะไร พอเค้าก็งานเสร็จแล้ว เค้าก็มาบอกเราว่าคนงานผู้รับเหมาแกล้งตอกตะปูลงไปในท่อ.. สายไฟเลยขาด.. ตะปูยังอยู่ในท่ออยู่เลย เอาไม่ออก.. (แล้วเค้ารู้ได้ไงว่าเป็นตะปู ในเมื่อเอาไม่ออก ??? ) เอ่อ.. ยังไงก็ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าเค้าเปลี่ยนสายไฟในท่อตรงจุดนั้นให้ใหม่.. ก็กำลังสังเกตุอาการอยู่ค่ะว่ามันจะตัดอีกรึป่าว...