กำลังจะหลุดพ้นจากสังคม......ทาวน์เฮ้าส์

Options

ทาวน์เฮ้าส์เราอยู่แล้วแฮปปี้ดีนะ เพื่อนบ้านไม่ค่อยสุงสิงกันเท่าไหร่ บ้านเราก็คุยแต่กับข้างบ้าน ซึ่งก็ดีค่ะ

มีช่วงนึงคอนโดหลังบ้านชอบมานั่งกินเหล้าเปิดเสียงดังกัน แต่เราจัดการไปแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสงบสุขมาก ฮ่าๆ

ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับดวงค่ะ เราเองก็กำลังจะย้ายไปบ้านเดี่ยว หวังว่าจะได้เพื่อนบ้านดีๆ เหมือนกัน

ผมมักจะบอกคนที่กำลังตัดสินใจเลือกบ้านระหว่างทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวว่าควรจะไปสำรวจดูชีวิตความเป็นอยู่และบรรยากาศของหมู่บ้านที่สร้างเสร็จมาแล้วสัก 10 ปี ลองไปดูว่าความรู้สึกของละแวกที่เป็นทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวมีอารมณ์แตกต่างกันอย่างไร

หมู่บ้านเพิ่งสร้างเสร็จดูยังไงก็ดูไม่ออกเพราะคนที่เข้ามาอยู่ต่างคนต่างก็เป็นคนใหม่ ส่วนมากก็มักจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกันแต่ครั้นเวลาผ่านไป บ้านแต่ละบ้านก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนเจ้าของ มีการเปลี่ยนสถานะของผู้อยู่อาศัย ฯลฯ ถึงตอนนั้นภาพที่เป็นจริงจึงจะปรากฏ

เจอเพื่อนบ้านดีก็เหมือนถูกหวย เจอเพื่อนบ้านที่เอาบ้านทำอู่ซ่อมรถ ทำโรงงานก็ต้องก้มหน้ารับกรรมไป

เราก็ขายทาวน์ ฯ มาซื้อ เดี่ยว เหมือนกัน

เดี่ยว ก็มีปัญหาเพื่อนบ้าน เช่น การเลี้ยงสัตว์ หนวกหูรำคาญมาก

แล้วก็มีพวกบ้านเช่าเหมือนกัน เป็นนศ. เอารถมาจอดหน้าบ้านคนอื่นไปทั่ว

นอนดึก ตื่นบ่าย กลางคืนจัดปาร์ตี้ เดินร้องเพลง เตะฟุตบอลทั่วซอย

นิติ ฯ ก็มีแต่ทะเลาะกันตลอดจนไม่สามารถสรุปอะไรได้ สุดท้ายเลย

โดนคนโกง

เราก็เตรียมหาที่อยู่ใหม่ไว้เหมือนกัน เป็นคอนโดเงียบสงบ ที่ตั้งมาเป็นสิบปีแล้ว

ส่วนใหญ่ปล่อยเช่าแต่ก็ยังเงียบสงบ ทำเลดีใกล้ห้าง

เราชอบอยู่คอนโดนะ เราว่ามันเป็นส่วนตัวดี ไม่ต้องทำความสะอาดมาก

มีปัญหาอะไรก็มีช่างบริการ นิติ ฯ ก็มีปัญหาแต่ก็แก้ได้ ไม่เหมือนเดี่ยวที่อยู่ปัจจุบัน

แต่ตอนนี้เรายังต้องอยู่เดี่ยวเพราะความจำเป็นทางครอบครัว

ก็ไม่แน่หรอกว่าที่ที่คุณไปอยู่ใหม่จะดีเสมอไป แม้จะเป็นโครงการมีชื่อเสียงแบบเรา

มันอยู่ที่จิตสำนึกของคนที่อยู่มากกว่า ตอนนี้เราก็ทนอยู่ ทั้งที่จ่ายไปเป็นล้าน

เสียความรู้สึกไปหลายอย่างมากมาย ก็คิดว่าคนที่กระทำอะไรกับใครไว้

คงไม่แคล้วต้องรับผลกรรมที่ตัวกระทำ เพราะบางคนอย่างเราไม่สามารถย้ายบ้านหนี

ได้ ต้องทน...

^
^
^
^
รูปด้านบนดูไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่คิดจะซื้อบ้านหลังมุมซอยตันแล้วกันนะคะ ปัญหาเกิดแน่นอนถ้าเจอเพื่อนบ้านไม่ดี หน้าบ้านเราจะกลายเป็นที่จอดรถของเพื่ อนบ้านไปทันที จักรยาน 3 คันนั้นจอดตลอดค่ะทั้งกลางวัน กลางคืนขี่มาปุ๊บก็ตรงมาจอดตรงนี้เลยเหมือนเป็นที่จอดรถส่วนตัวก็ไม่ปาน ส่วนหน้าบ้านเค้าวางตู้น้ำหยอดเหรียญ ในพื้นที่ซึ่งบ้านเราเอาไว้จอดรถยนต์ 1 คัน มอเตอร์ไซด์ 2 ส่วนเค้าเอาไว้วางแคร์ไม้ไผ่นั่งเม้าท์ กินข้าว ตั้งวง บลา ๆ ตอนเย็นก็มาตั้งวงกันกลางถนนแทน เยี่ยม! (แต่กลางถนนตอนนี้เบาไปแล้วหลังจากเราสุดจะทนต้องแสดงอาการบอกกล่าวกันไป ซึ่งแน่นอนต้องมีผลกระทบของการไม่พอใจของเพื่อนบ้านตามมาหาว่าเราไม่มีน้ำใจ ไม่มีสังคม อืม...กินข้าวปูเสื่อกันกลางถนน ส่งเสียงดังลั่นซอยเนี่ยะนะคือความหมายของการมีน้ำใจ)

รถยนต์คันดำเป็นของเพื่อนบ้านหลังที่ 3 เอาออกไปข้างนอกทีไรกลับมาไม่เอาเข้าบ้านก็ไม่ได้ว่าแต่ก็ไม่จอดหน้าบ้านตัวเองประมาณว่าเกะกะทางเดินในบ้านและหน้าบ้านตัวเอง วันอาทิตย์ถ้ารถญาติเค้าไม่อยู่ (เก๋งสีขาว) เค้าก็เอารถออกมาจอดไว้ตรงนี้ ในบ้านโล่ง ๆ--" จริง ๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเราจะออกเราก็เรียกให้เค้าขยับให้ แต่มีหลายครั้งเหมือนกันที่เราจะเอารถออกรีบ ๆ ต้องไปส่งของลูกค้า (เราใช้รถไม่เป็นเวลา) ก็มันรีบอ่ะกว่าจะเดินไปตามกว่าจะมาขยับให้หรือบางทีไม่อยู่บ้านเดินไปไหนไม่รู้ สุดท้ายเราก็ต้องกระเตงของพะรุงพะรังใส่มอไซด์คู่ชีพไปส่งของแทน อ่ะก็ดีประหยัดน้ำมันดีo_O
อันนี้ยังไม่รวมถึงญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ของเพื่อนบ้านไม่ว่าหลังไหนขับมาปุ๊บต้องเอามาจอดไว้หน้าบ้านเราทุกที คงเห็นว่าหน้าบ้านเราโล่งดี บางทีมาบ้านกลางซอยมาจอดหน้าบ้านเราหาตัวไม่เจอไม่รู้หลังไหน เพราะตอนมาจอดเราไม่เห็น ล่าสุดเพื่อนของหลังที่ 3 ขับตรงมาจอดหน้าบ้านเราเลยทั้ง ๆ ที่ถนนก็โล่ง ๆ หน้าบ้านเค้าก็โล่งไม่จอด แถมจอดมันซะชิดประตูบ้านถอยมอไซด์ออกแทบไม่ได้ ก็วีนกันไป (แล้วเราก็เป็นคนไม่มีน้ำใจอีกเช่นเคย)

ราวตากผ้าเมื่อก่อนก็ตากกันหลังบ้านหรือบนระเบียง (ระเบียงบ้านเรากว้างมากจากรูปล่างขวามือ) แต่พอมีบางบ้านมักง่ายเอามาตากบนถนน ก็เลยเลียนแบบกันเป็นวัฒนธรรมใหม่อย่างที่เห็น

มาใช้กระทู้เค้าบนยาวไปแระ อิอิ ตอนนี้รอบ้านใหม่เสร็จซึ่งช้ามาก แต่บอกตรง ๆ ยังทำใจไม่ได้เลยที่จะต้องจากบ้านหลังแรกหลังนี้ของเราไปรักบ้านมากพยายามทนแล้ว แต่ไม่ไหวจริง ๆ ไปซะตั้งแต่ตอนยังเหลือความรู้สึกดี ๆ ต่อกันอยู่จะดีกว่า (เพื่อนบ้านจริง ๆ ก็เคยได้พึ่งพาอาศัยกันอยู่ แต่มาเริ่มไม่ไหวตั้งแต่มีพวกห้องเช่าขึ้นมา) หมู่บ้านที่เคยน่าอยู่มันจะเหมือนสลัมจัดสรรเข้าไปทุกที....ลาล่ะค่ะ

.....ราคาบ้านบางทีมันก็บอกถึงนิสัยคนส่วนหนึ่งได้ด้วย อีกหน่อยทาวน์เฮ้าส์ก็จะมีแต่พวกเด็กแวนซ์ ส่งยา มาเช่าอยู่กัน

ดีใจด้วยค่ะ

เราก้อซื้อบ้านใหม่เพราะเหตุผลนี้เหมือนกัน

ยอมทิ้งทาวเฮ้าทำเลดีๆ ไปหาบ้านเดี่ยว

เพราะเพื่อนบ้านทะเลาะกัน ด่ากันบ่อย เด็กวัยรุ่นมั่วสุม

ไม่อยากให้ลูกโตมาในสังคมแบบนี้

แต่ต้องรออีก 1 ปี กว่าบ้านใหม่จะเสร็จ

เข้าใจค่ะ บ้านป้าเราเป็นบ้านพฤกษาค่ะ ปัญหาเยอะอ่ะ แบบที่จอดรถ เสียงดัง

แถมมีบ้านนึง เอาโซฟามาตั้งที่ถนนเลยค่ะ กินข้าวกัน

เราจะซื้อบ้านกับแฟน ตอนแรกแฟนก็บอกว่า ทาวเฮาส์ ก็พอแล้ว เงินเราไม่เยอะขนาดนั้น

เราก็ยกปัญหาให้ฟัง ก็ยังไม่เข้าใจ ทีนี้พอไปเจอของจริง ชัดเจนเลยค่ะ เอาบ้านเดี่ยวทันที ^_^

เคยอยู่ทาวน์เฮ้าส์แล้วก็ย้ายหนีเหมือนกัน ปัญหาก็เหมือนจขกท.นี่แหละ เสียงดัง กินเหล้า จอดรถ พอมาอยู่บ้านเดี่ยวทุกอย่างดีมาก สงบสุข แต่ตอนหาบ้านเดี่ยวผมเลือกโครงการที่ราคาประมาณ 4ล้านอัพด้วย อย่างน้อยก็กะว่าขอเลือกระดับของคนที่อยู่